ล้างแอร์กี่ครั้ง ต่อปี ปัจจัยหนึ่งก็คือ เราเปิดใช้งานแอร์ตัวนั้นบ่อยครั้งและนานแค่ไหน ยิ่งเปิดบ่อยๆหรือเปิดนานๆ ก็ยิ่งต้องล้างแอร์บ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น เพราะขณะที่แอร์กำลังทำงาน จะมีการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่องเพื่อหมุนเวียนแล้วพ่นลมเย็นออกมา ทำให้มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไป แล้วไปหมักหมมอยู่ภายในตัวเครื่อง และจะทำให้ระบายความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เเอร์ทำงานหนักและกินไฟเพิ่มขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่งก็คือตำแหน่งที่อยู่อาศัยของท่าน ถ้าหากอยู่ติดถนน หรืออยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้าง เป็นต้น ก็จำเป็นจะต้องล้างแอร์บ่อยครั้งขึ้นตามปริมาณฝุ่นละออง (สังเกตง่ายถ้าด้านหลังของคอยล์ร้อนเริ่มมีฝุ่นจับมากก็ควรล้างทันที อย่าปล่อยให้อุดตันจนอากาศไหลเวียนได้ไม่สะดวก)
โดยปกติแล้วเราจะเปิดแอร์กันเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อใช้งานผ่านไป 3 – 6 เดือน พัดลมแอร์จะเริ่มมีฝุ่นมาเกาะหนาจนทำให้ลมไม่สามารถออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ทุก 6 เดือนหรือปีละ 2 ครั้งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์นั่นเอง
ข้อแนะนำ : ควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของแอร์ ด้วยน้ำเปล่าทุก ๆ อาทิตย์ (ทำให้แห้งก่อนนำไปใส่) เพื่อลดการอุดตันของแผ่นกรอง (ช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ และยังช่วยลดไรฝุ่นละอองที่ลมเป่าออกมาจากตัวแอร์ในห้องได้ด้วย)
การล้างแอร์ด้วยตัวเอง
1 ก่อนอื่นให้สับคัทเอาท์ลงก่อนเพื่อตัดไฟ
2 ถอดหน้ากากของแอร์ออกมา และดึงแผ่นกรองอากาศออกมา และนำไปล้างฝุ่นออกให้สะอาดจากนั้นนำมาเป่าลมให้แห้งดี
3 ทำการเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว โดยวิธีนี้ให้เราทำบ่อยๆสัปดาห์ละครั้ง
4 หากทำตามขั้นตอนทั้งหมดและแอร์ยังไม่เย็น แนะนำให้ถอดฝาออกให้หมดและใช้ถุงพลาสติกครอบบริเวณที่เป็นแผงวงจรไฟฟ้า อ ย่ าให้จุดนี้โดนน้ำ และให้ใช้สายย า งต่อกับปั๊มแรงดันสูง ฉีดทำความสะอาดแผงคอยล์เย็น จากนั้นใช้โบลวเวอร์เป่าแผงคอยล์และแผงไฟฟ้าให้แห้ง
5 เมื่อเป่าทุกส่วนแห้งดีและ ให้ดูที่ตัวระบายความร้อนของแอร์ และใช้น้ำฉีดล้างคอยล์ร้อน ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่ต้องถอดชิ้นส่วนใดๆออกเลย
6 จากนั้นให้เปิดแอร์โดยใช้โหมดแรงลมสูง ทิ้งเอาไว้ 30 นาที เพื่อไล่ความชื้นออกให้หมด เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย รับรองว่าแอร์ของเราจะกลับมาเย็นฉ่ำได้อีกครั้ง
วิธีช่วยประหยัดไฟ
1 ให้ทำการเปิดพัดลมกับแอร์พร้อมกันไปด้วยจะช่วยกระจายความเย็นให้กับห้อง ช่วยให้อากาศเย็นเร็วขึ้นและแอร์ไม่ทำงานหนักเกินไป ลองลดอุณภูมิที่ใช้อยู่เช่นจากที่เคยเปิด 25 องศา ก็อาจปรับเป็น 26 และใช้พัดลมช่วยแทน จะช่วยประหยัดแอร์ได้อีกวิธีหนึ่ง
2 หากจะเปิดแอร์ในช่วงกลางวันที่อากาศในห้องกำลังร้อนอบอ้าว ให้ทำการเปิดหน้าต่างและเปิดพัดลมเพื่อไล่ความร้อนออกจากห้อง รวมทั้งความร้อนสะสมที่ผนังห้องให้เย็นลงสักหน่อย ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงเปิดแอร์และใช้พัดลมช่วย
วิธีใช้รีโมทแอร์ที่ถูกต้อง
โหมด FAN คือโหมดพัดลม จะสามารถปรับความแรงของลมได้ แต่จะไม่สามารถตั้งอุณหภูมิได้
โหมด COOL เป็นโหมดความเย็นโดยเฉพาะ นิยมใช้โหมดนี้กันเป็นปกติ และสามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้
โหมด DRY เป็นโหมดแห้ง เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการลดความชื้นในห้อง หากเปิดโหมดนี้แอร์จะทำให้ความชื้นในอากาศลดลง แต่จะไม่สามารถเพิ่มหรือลงอุณหภูมิในห้องได้
โหมด AUTO เรียกว่าเป็นโหมดอัตโนมัติ ซึ่งบางยี่ห้ออาจใช้ชื่อโหมดนี้ว่า I FEEL ซึ่งระบบแอร์จะทำงานแบบออโต้ เป็นการตั้งอุณหภูมิและความเร็วลมแบบอัตโนมัติ ช่วยปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมให้กับห้อง โดยมีการใช้เซ็นเซอร์วัดและสลับการทำงานระหว่างโหมด Cool กับ Dry
โหมด HEAT เป็นโหมดสร้างความอบอุ่นให้ห้อง โดยมากจะไม่ค่อยได้ใช้งานในโหมดนี้
เรื่องราวของแอร์บ้านที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของแอร์ไม่เย็นได้อ ย่ า งดีและยังช่วยให้สามารถประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย แอร์บ้านเราจะเย็นฉ่ำได้ไม่ย า กเพียงเรารู้วิธีและเทคนิคเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ลองนำไปทำตามกันดูรับรองว่ามีประโยชน์อ ย่ า งแน่นอน