10 ข้อคิด! เติมความหวัง ฝากถึงคนที่ทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงครอบครัว

1. คนเราท้อกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อย่าจมอยู่กับความท้อนานเกินไป ยิ่งท้อจะยิ่งจม พลังชีวิตหดหาย จงลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่ เพื่อให้ชีวิตได้เริ่มต้น คนเราเริ่มใหม่ได้เสมอ อย่ามัวแต่กังวล ขี้เกียจ และหวาดกลัว ให้ โ อ ก า ส ตัวเอง ได้ทำบางสิ่ง เพื่อเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง

2. ความหวัง เ ป็ น สิ่ ง สำคัญ เมื่อคิดหวังสิ่งใด ต้องรู้จักบูรณาการให้สิ่งนั้นจับต้องได้ เพื่อทำลงในชีวิตประจำวัน ไม่ เ ช่ น นั้นจะเข้าข่ายฝันไปเรื่อยเปื่อย

มีคนจำนวนมากเอาแต่คิดฝัน แต่ไม่ยอมลงมือทำ ฝันแล้วไม่ทำ คือการบ่มเพาะความซ้ำซากจำเจให้ ชี วิ ต แบบไม่รู้ตัว มันคือความเคยชินที่ทำให้ ชี วิ ต สูญเสียพลังงาน

3. เดินช้า หรือเดินเร็ว ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญที่ว่าต้องเดินทุกวัน และไม่หยุดเดิน ลองวาดภาพกว้าง ๆ เราจะ ไปไหน เริ่มตรงไหนก่อน แล้วมาย้อนกลับมาดูว่า เราจะไปไปได้อย่างไร ทำได้อย่างไร รูปแบบให้ง่าย การมองภาพให้ง่าย จะทำให้ไม่เสียกำลังใจในการก้าวจากจุดเริ่มต้น

4. อย่างสมมุติว่า เราจะไปเชียงใหม่ นั่นคือเป้าหมายของเรา แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ อย่าฝากความสุขไว้กับปลายทาง เพราะนั่นเท่ากับเราฝากความสุขไว้กับอนาคต จงมีความสุขในทุกก้าวย่างที่เราเดิน พูดให้น้อย ทำให้มาก พูดมากจะกลายเป็นคนขี้โม้ ยิ่งทำมาก ก็ยิ่งจะยิ่งเข้าใกล้ความฝันมากขึ้นเท่านั้น

5. ถ้าคิดไม่ออกว่า ไม่รู้จะต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ยังไง ให้ลองทำสองสิ่ง นี้

– หนึ่ง ตื่นนอนแต่เช้าตรู่แล้วออกวิ่งระยะทาง 5 กม. เป็นอย่างน้อย ถ้าเริ่มวิ่งไม่ไหว ให้เดิน ถ้าเริ่มเดินไม่ไหว ก็ให้เดินให้ช้าลง เชื่อเถอะ แล้วคุณทำมันได้ มันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น

– สอง ลองหาเวลาว่างๆเพื่ออยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักวัน นานกว่านั้นได้ก็ยิ่งดี หยิบสมุดเปล่าไปสักเล่มก็ได้ ค่อย ๆ คิดทบทวนชีวิตไปเรื่อย ๆ น่าแปลกที่เราใช้ชีวิตมานาน

แต่เราแทบไม่เคยมีเวลานั่งทบทวนชีวิตเลย เชื่อเถอะว่า การอยู่คนเดียวลำพัง กับความเงียบ จะช่วยให้เราคิดอะไรออกได้หลายอย่าง แล้วชีวิตจะเริ่มคลีคลายจากตรงนั้น

6. บางครั้งที่ชีวิตเรามันน่าเบื่อ ก็เพราะคิด พูด ทำแต่สิ่งเดิม ๆ คนเราจำเป็นต้องได้ยิน ได้ฟัง อะไรใหม่ ๆ พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ลองกินอาหารใหม่ ๆ ฟังเรื่องที่ไม่เคยได้ยิน อ่านหนังสือเล่มใหม่ ไปในสถานที่แห่งใหม่ ทั้งหมดนั้นเราต้องทำเพื่อถ่ายเทตนเอง ทำให้ชีวิตมีการเคลื่อนไหว การปิดตนเอง นำมาซึ่งความอับทึบของชีวิต

7. การพร่ำบ่นไปไม่ได้ช่วยอะไร ใจท้อได้ แต่บ่นให้พอประมาณ แต่อย่าให้มากมายจนกลายเป็นความฟูมฟายของชีวิต นึกอะไรไม่ออก ยิ้มให้ท้องฟ้า พูดจาดี ๆ พูดให้กำลังใจคน พูดในสิ่งที่เป็นความสว่าง อย่าเอาแต่พูดพ่นพิษให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

8. ลองคบเพื่อนหลาย ๆ แบบ คบคนที่คิดแบบเรา คบคนที่คิดต่างกับเรา ลองกลับด้านคิด สิ่งใดที่ชอบ ลองหาข้อไม่ดี สิ่งใดที่ไม่ชอบ ลองหาข้อดีจากมัน

อย่าสั่งแต่อาหารคุ้นลิ้น ล อ ง ชิ ม สิ่งใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส ตรวจสอบความคิดของตนอยู่ตลอดเวลา ผิดถูก บางครั้งพูดกันยาก บางครั้งขึ้นอยู่ที่เรามองสิ่งนั้นจากมุมใด

9. หากทุกข์ ท้อเพราะคน ขอให้ตระหนักว่า เรามาถูกทางแล้ว ที่จริงเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ที่บางครั้งเราจะพบเจอกับคนที่ไม่เข้าใจเราบ้าง พ่อแม่ยังไม่เข้าใจลูกเลย

และก็ลูกยังไม่เข้าใจพ่อแม่ สิ่งนี้เกิดกับแทบทุกครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ ปั ญ ห า ความคิดต่างระหว่างคนต่อคน ดำเนินมายาวนาน เป็นเรื่องอยู่คู่โลกในทุกยุคทุกสมัย

ที่จริงเราทุกข์ผิดหวังเพราะใคร เกิดจากเราเอาใจไปยึดมั่นถือมั่นในบุคคลนั้น ไม่ยึดว่าเขาต้องเข้าใจ เราก็จะไม่ทุกข์ ของอย่างนี้ต้องค่อย ๆ ฝึก จะเอาวันนี้ เ ห็ น ผ ล ทันที เป็นไปไม่ได้

10. โลกจะแคบลงทันทีถ้าใจแคบ และโลกจะกว้างขึ้นมากถ้าใจกว้าง ความเปลี่ยนแปลงคือของจริง ความมั่นคงนาน ๆ ครั้งเกิดขึ้น และท้ายที่สุดย่อมไม่ใช่สิ่งจีรัง ที่จริง ค ว า ม ทุ ก ข์ ท้อแท้ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตที่มนุษย์ไม่อาจปฏิเสธ

ที่จริงใน ค ว า ม ทุ ก ข์ ท้อแท้ ก็มีความสวยงามซ่อนอยู่ ทความทุกข์ช่วยให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น ความทุกข์ทำให้เราเกิดปัญญาได้มากกว่าความสุข เพราะเห็นทุกข์ จึงเห็น ธ ร ร ม ความทุกข์ทำให้คนเข้าใจชีวิต หรือจะทำลายชีวิตก็ได้ทั้งนั้น อยู่ที่เราจะใช้มันไปในทิศทางไหน อยู่ที่กำลังใจ กำลังสติ

หากวันนี้กำลังมีความทุกข์ก็อย่าให้เสียเปล่า จงสรุปบทเรียนจากมันด้วยความหวัง กำลังใจ อย ากมีชีวิตใหม่ จงทำสิ่งใหม่ รออะไรหรือรออะไร รอมานานเกินไปไหม…ชี วิ ต ใ ห ม่ เริ่มได้ทันที เมื่อลงมือทำ

ที่มา : today.line.me