ปลูกผักสวนครัวกินเองที่บ้านกันเถอะ ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ผักราคาแพงมาก ๆ อย่างหน้าแล้ง แถมยังได้กินผักปลอดสารพิษจากฝีมือการปลูกของตัวเองให้รู้สึกภูมิใจอีกด้วย
ในช่วงเวลาแบบนี้ การลดรายจ่ายในครัวเรือนลงได้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย ลองหันมาปลูกผักสวนครัวไว้กินเองที่บ้าน จะได้ไม่ต้องออกไปจ่ายตลาดให้เปลือง ก็ช่วยประหยัดไปได้มาก วันนี้เราจึงได้นำวิธีปลูก 4 ผักสวนครัวโตไว ปลูกง่ายได้ที่บ้านด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ
พริก
ตอนนี้ราคาพริกยังทรงตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 25-30 บาท แต่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นแน่ ๆ และอาจมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100-120 บาทเลยทีเดียว ดังนั้นคนชอบกินพริกชอบกินเผ็ดทั้งหลาย รู้ยังว่าเราสามารถปลูกพริกกินเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ง่ายดายมาก ๆ
ขั้นตอนในการปลูกพริก
-เตรียมเมล็ดพริกให้พร้อมก่อนลงปลูกโดยนำพริกพันธุ์ที่จะปลูกไปแช่ในน้ำอุ่นไว้ประมาณ 1 วันและนำออกมาผึ่งแดดอีกครึ่งวัน ก่อนแกะเมล็ดพริกออกมาปลูก
-เพาะต้นกล้าพริกก่อนปลูกจริงโดยผสมดินร่วนปนทรายเข้ากับปุ๋ยหมักสูตรโพเทสเซียมสูงกว่าไนโตรเจนลงในกระถางเพาะต้นกล้าพริก ขุดหลุมดินในกระถางให้ลึกประมาณ ½ นิ้ว แล้วหย่อนเมล็ดพริกที่เตรียมไว้ลงในหลุมประมาณ 3-4 เมล็ด กลบดิน รดน้ำให้ชุ่มทุกวัน พร้อมกับสังเกตว่าดินระบายน้ำได้ดีหรือไม่ และที่สำคัญต้องวางกระถางเพาะไว้ในที่ที่มีแดดส่องถึง
-ย้ายต้นกล้าลงกระถางใหญ่เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกสูง 6 นิ้วขึ้นไปและออกใบให้เห็น ให้ถอนต้นกล้าที่อ่อนแอทิ้งไปให้เหลือไว้เฉพาะต้นกล้าที่แข็งแรงเพียง 1 ต้น หลังจากนั้นก็ทำการย้ายต้นกล้าพริกไปปลูกในกระถางใหญ่ที่มีดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมัก เช่นเดียวกับขั้นตอนเพาะต้นกล้าพริก
-วางกระถางพริกในทำเลที่เหมาะสมเพราะพริกเป็นพืชที่ชอบแสงแดด ฉะนั้นควรวางกระถางปลูกต้นพริกในที่ที่มีแดดส่องถึง รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะทุกวันเช้า-เย็น และเมื่อพริกเริ่มติดดอกและออกผลแข็งแรงแล้ว ให้เปลี่ยนไปรดน้ำแบบวันเว้นวัน
-การเก็บเกี่ยวเม็ดพริกก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่นำมาปลูก แต่สำหรับพริกขี้หนูจะออกดอกและให้ผลประมาณเดือนที่ 2-3 ของการปลูก
ปวยเล้ง
ขั้นตอนในการปลูกปวยเล้ง
– ก่อนอื่นให้นำเมล็ดปวยเล้งไปแช่ในน้ำเย็น 3-5 ชั่วโมง ระวังอย่าแช่นานเกินไป เพราะจะทำให้เมล็ดเน่าได้
– เมื่อแช่เมล็ดเสร็จแล้ว ก็นำกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด รองด้านในด้วยกระดาษทิชชู่สัก 3 ชั้น จากนั้นก็พรมน้ำให้ทั่วกระดาษทิชชู่ให้พอชุ่ม เมื่อพรมน้ำแล้วก็ให้เทน้ำออก เพื่อไม่ให้มีน้ำขังมากเกินไป
– จากนั้นนำเมล็ดปวยเล้งที่แช่น้ำมาแล้ว มาล้างน้ำให้สะอาด แล้วโรยเมล็ดลงไปในกล่องพลาสติกที่เตรียมไว้
– ปิดฝากล่องให้สนิท แล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องปกติ รอประมาณ 7-14 วัน จะเริ่มเห็นปลายปวยเล้งแตกออก รากโผล่จากเมล็ด
– นำเมล็ดที่มีรากงอกออกมานั้นไปเพาะลงวัสดุปลูกได้เลย รออีก 35-45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ผักสลัด
ขั้นตอนในการปลูกผักสลัด
-เลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักสลัดที่เราต้องการ
-ใส่ดินลงในกระถางหรือถาดหลุม รดน้ำให้ชุ่ม วางเมล็ดลงไปที่หลุมประมาณ 3-4 เมล็ด/หลุม
-รอเวลาประมาณ 5-7 วันให้มาคัดต้นอ่อนที่สมบูรณ์เอาไว้ เหลือเพียง 1 ต้น/หลุมหรือกระถาง
-กดดินให้แน่นเพื่อเป็นการตั้งต้นให้กับต้นอ่อน
-รดน้ำในตอนเช้าและตอนเย็น วางไว้ในที่โดนแสงแดดเต็มที่ แต่ถ้าแดดแรงมากอาจหาแสลมมาช่วยพรางแสงได้
-สามารถใส่ปุ๋ยได้เมื่อต้นอายุครบ 2 สัปดาห์และสามารถใส่ปุ๋ยเพิ่มการเจริญเติบโตได้เมื่อครบ 3 สัปดาห์
-สามารถเก็บเกี่ยวได้หลังครบ 45-50 วัน
ผักชี
ปกติราคาผักชีไทยจะอยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อกิโลกรัม แต่หน้าผักแพงอาจมีราคาเกือบกิโลกรัมละ 100 บาทเลยนะคะ เรามาปลูกกินเองดีกว่าค่ะ แถมปลอดสารพิาอีกด้วย
ขั้นตอนในการปลูกผักชี
– ให้เริ่มจากการเตรียมดิน โดยการตากดิน 7 วัน จากนั้นก็พรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้าเข้าไป
– นำเมล็ดพันธุ์ผักชีมาบดให้แตกออกเป็น 2 ซีก จากนั้นก็นำไปแช่ในน้ำ 2-3 ชั่วโมง
– เมื่อแช่เมล็ดครบกำหนดเวลาแล้ว ก็นำไปผึ่งลม และผสมกับทรายหรือขี้เถ้าเล็กน้อย
– เมื่อเมล็ดเริ่มงอก ก็ให้ใส่กระถางปลูกที่เตรียมดินเอาไว้ แล้วคลุมด้วยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่ม
– ใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยก่อนจะเก็บเกี่ยวให้รดน้ำจนดินชุ่มก่อน และควรถอนทั้งรากออกมา
ข้อดีของการปลูกผักสวนครัวทานเองนอกจากให้เราสามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
ผักสวนครัวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพืชอายุสั้น คนที่อยู่คอนโดเองก็สามารถปลูกได้โดยนำไปปลูกในกระถางเล็กๆ ริมระเบียงหรือริมรั้วได้
ไม่ต้องดูแลมากนัก ซึ่งผักสวนครัวเหล่านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารให้เราได้ในระดับหนึ่งหรือถ้าเรามีพื้นที่มีความสามารถมากพออาจจะมองเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ในอนาคตก็ได้
ขอบคุณที่มา bitcoretech