3 การสร้างบุญ ที่จะพาให้เราก้าวผ่านพ้นเรื่องแย่ๆ ในชีวิต

การดำเนินชีวิตของเราทุกคน มักจะมีเรื่องที่ดี และไม่ดีปะปนเข้ามาให้เราได้ข้ามผ่านมันไปทั้งนั้น แต่บางครั้งเวลาที่ต้องเจอกับเรื่องราวแย่ๆ ในชีวิต มักจะหาทางออกไม่เจอ

จะหวังพึ่งใคร ก็ไม่มีคนคอยช่วยเหลือ หรือสนับสนุนผลักดันเลย ดังนั้นการที่เราสะสมบุญติดตัวไว้ จะเป็นตัวช่วยให้ชีวิตคุณพบเจอกับทางออกได้ในที่สุด

การ ทำบุญ ในทางพุทธ ศ า ส น า ไม่ได้มีเพียงการให้เงินให้ทอง หรือให้ทาน ทำบุญกับwระและวัดเท่านั้น บุญ หมายถึง การกระทำความดี เป็นเครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ดังนั้น บุญจึงเป็นเสมือนเครื่องกำ จัดสิ่งเศร้ าหมองที่เราเรียกกันว่า กิ เ ล ส ให้ออกไปจากใจ

บุญจะช่วยให้เราลด ละ เลิกความโ ล ภ ความเห็นแก่ตั ว ความมีจิตใจคับแค บ อันเป็นสาเหตุให้เกิดความทุก ข์ และช่วยให้ใจเป็นอิสระ พร้อมจะก้าวไปสู่การทำคุณงามความดีในขั้นต่อๆ ไป

1 บุญแรกคือ บุญจากการกตัญญู

เราคงจะได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กว่า พ่อ แม่ คือwระอรหันต์ของบ้าน ซึ่งตามความเชื่อของทุก ศ า ส น า สอนให้คนเป็นคนดี และโดยการปฏิบัติต่อคนที่รักในครอบครัว ส่วนใน ศ า ส น า พุทธนั้นการดูแลพ่อแม่ถือเป็นความกตัญญู เป็นการสร้างสิริ ม ง ค ล สร้างบุญและทำให้ได้อานิสงส์แห่งชีวิตตนเองมาก ๆ

พ่อแม่คือผู้ให้ชีวิตแม้ท่านไม่ได้เลี้ยงดูเราwระคุณท่านเราก็ยังตอบแทนไม่หมด ใยจะกล่าวถึงที่ท่านเลี้ยงดูเราจนโต wระสัมมสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบให้เห็นว่า “แม้เราจะเลี้ยงดูพ่อแม่บนบ่าทั้งสองข้างป้อนข้าวป้อนน้ำให้อุจจาระปัสสาวะบนบ่าให้ทำเช่นนี้ตลอด 100 ปี ก็ไม่อาจทดแทนwระคุณท่านได้หมด”

นอกจากwระคุณของพ่อแม่แล้ว wระคุณของคนอื่นที่อยู่รอบกายเรา ที่คอยช่วยเหลือเรา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม หากมีโอกาสก็ควรตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

การตอบแทนwระคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุดตามหลักwระพุทธ ศ า ส น า ที่wระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้คือ การที่ให้พ่อแม่ท่านเข้าวัดทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา การตอบแทนเช่นนี้จึงถือได้ว่าได้ตอบแทนwระคุณพ่อแม่ได้สูงสุด

2 บุญที่สอง คือ บุญของตนเอง

ที่สร้างขึ้นมาในภพนี้ ทั้งจากทาน จากศีล จากภาวนาทั้ง 3 ช่องทางนี้ เป็นบุญใหญ่ที่จะพาเรารอด คนไม่มีบุญของตนเองนั้น ไม่มีทางพ้นไปได้ เราต้องมีฐานบุญของเราเอง ทานไม่มีเงิน ก็อภัยทานนำ เมื่อมีบ้างก็ทำสลึง สองสลึง ด้วยจิตบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ ผลบุญมากกว่าเงินพันล้านที่จิตไม่บริสุทธิ์

แม้จะอด จะลำบากแค่ไหนอย่ าผิดศีล ต้องอดทน อดกลั้น อย่ าเพิ่มวิกฤตให้ตัวเอง เราต้อง ซ่อมและ สร้าง ไปพร้อมกัน ยึดหลักพรวิเศษของพ่อไว้ จะแน่วแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด ภาวนา

นั้นเป็นบุญมาก ฝึกสวดมนต์ ฝึกทำสมาธิภาวนา ระงับจิตใจที่ร้อนรุ่ม ฝึกให้เย็นลง ปลงให้ได้อะไรที่เสี ยไปแล้วช่างมัน ไม่เคยทำไม่เป็นไร เริ่มใหม่ได้ทุกวินาที

3 บุญสุดท้าย คือ บุญแห่งการให้อโหสิกรร มและขออโหสิกรร ม

การที่เราสามารถสร้างอภัยทานให้เกิดมีขึ้นในตัวได้นั้น ถือเป็นการชำระจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี ทานที่เป็น “ทรัพย์ภายใน” ที่ทรงคุณค่าและสูงค่าที่สุดก็คือ อภัยทาน เพราะแม้เราจะได้ชื่อว่ากระทำธรรมทานสอนและแนะนำให้ผู้อื่นได้กลับตัวได้รู้ธรรมได้มากเพียงใดแม้จะให้มากโดยชักชวนคนไป ฟังธรรมสัก 100 ครั้ง หรือสั่งสอนคนให้กลับตัวเป็นคนดีได้มากถึง 100 คน ก็ได้บุญและอานิสงส์น้อยกว่าการให้ “อภัยทาน”

แม้จะให้เพียงครั้งเดียวได้ การรู้จักให้อภัยทานนั้น หมายถึง การไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทร้ายต่อคนอื่น แม้แต่ผู้ที่เป็นศัตรูซึ่งจะได้บุญกุศลและอานิสงส์แรงที่สุดในการทำทานทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นทานประเภทที่เป็นทรัพย์ภายนอกหรือทรัพย์ภายในก็ตาม

เพราะการให้อภัยทานนั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรเพื่อลดละสิ่งที่เรียกว่า “โทสะกิเลส”และเป็นการเจริญ “wรหมวิหารธรรม” wรหมวิหารธรรมนั้นจะเป็นคุณธรรมที่เรียกได้ว่า ทำได้ยากในบุคคลธรรมดาด้วยการมีความเมตตาคือปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข มีความกรุณาปรารถนาให้ผู้อื่นพ้น ทุ ก ข์ มีความมุทิตา คือยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุขไม่อิจฉาริษยา และ ความมีอุเบกขารู้จักวางเฉยอย่างมีปัญญา

ดังนั้นควรปลอดปล่อยซึ่งกันและกัน อย่ าได้มีอะไรติดค้างต่อกันเลย เริ่มต้นง่ายด้วยตัวเราเอง เริ่มจากการให้อภัย อโหสิกรร มก่อน ปลดเชือกฝั่งเรา แล้วไปขออโหสิกรร ม เจ้า ก ร ร ม น า ยเ ว ร ทั้งที่มีชีวิตอยู่บนโลกเดียวกัน และที่อยู่คนละโลกกับเราแล้วก็ตาม

ปาฏิหาริย์แห่งบุญที่ยิ่งใหญ่ จะพาพ้นไปจากความมืดทั้งปวง ด้วยบุญของเรา ด้วยกรร มดีของเรา ขอให้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม ขอบุญรักษา

ที่มา : ธ.ธรรมรักษ์