“จงรักตัวเองให้มาก” ชีวิตเป็นข องเรา ไม่ควรไปค าดหวังกับใค ร เพร าะคำว่า”ตลอดไป” ไม่มีอ ยู่จริง

เชื่อว่าหลาย คนต้องเคยผ่านเรื่องราวของความรักกันมาบ้าง แต่บทสรุปจุดจบของเรื่องความรักอาจแตกต่างกันออกไป บ้างก็สมหวังบ้างก็ผิดหวังในเรื่องของความรักสำหรับวันนี้ เรามีข้อคิดดีๆ สำหรับแนวคิดในเรื่องความรัก ของการใช้ชีวิตคู่มาฝากทุกคน

ตัวคุณเองเชื่อในความรักหรือไม่ เชื่อในความมั่นคงหรือไม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เรามีความรักแต่ก็กลับต้องจากลา ไม่มีใครสมหวังไปตลอดทั้งชีวิต บางทีแล้วรักแท้ และคู่แท้อาจจะเป็นแค่การสันนิษฐาน การสรุปรวมเ อ าแต่ข้อดีและความรู้สึกดี เพราะยังมีความจริงต่อไปนี้

ที่เราต้องเจอไปพร้อมกับความรัก และ เป็นสัจธรรมชีวิต “รักตลอดไปไม่มีอยู่จริง” แต่หลายๆ คนก็ยังตามหา ยังฝันถึง และ ยังตองการ แต่มนุษย์เราแปรเปลี่ยนตลอดเวล า รักตัวเองให้มาก อย่ าไปคาดหวังกับใคร เพราะคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง
        
1 คนเรามีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน

เพียงเวลาแค่ไม่นานกายและใจของเรา จะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สิ่งรอบตัวที่เราพบเจอ อารมณ์ต่างๆ ความรู้สึกต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป นับประสาอะไรกับคนที่มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
        
หากในวันนี้ที่เรานั้นงี่เง่า นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะทนเราได้ตลอด นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะอยู่กับเราไปตลอด ไม่มีอะไรที่จะเป็นตัวการันตีในความรักได้เลย แม้แต่ทะเบียนสมรสก็ตาม

2 สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน

ต่อให้ยังอยู่ที่เดิม อิริยาบถเดิม สิ่งรอบข้างก็ต้องดำเนินต่อไป ดว งอาทิตย์ยังต้องขึ้นตามเวลา โลกยังต้องหมุนต่อไป อากาศยังต้องเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงของวัน และมันก็อาจส่งผลกระทบถึงความรู้สึกคนเราได้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก หากว่าสักวันหนึ่งเขาจะเบื่อเรา
        
ทั้งที่เขาก็อยู่กับเราตลอด และเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรตัวเองเลย ไม่ใช่เรื่องผิดเสียด้วย หากว่าคนเราอยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่บ้าง มันเป็นเรื่องของความสบายใจ ไม่มีใครถูกหรือผิดที่สุดที่จะเลือกสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด

3 บางครั้งการเข้าสู่โหมดความรัก ก็เป็นเพียงแค่การค้นหาตัวเอง
        
อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่า เขาคนนั้นที่ทำอะไรดูดี ไปหมดจะหมายความได้ว่าเขารักเรา บางทีเขาก็เพียงแค่อย ากจะค้นหาตัวเองในอีกด้านหนึ่งเท่านั้น บางทีก็แค่อย ากรู้ว่า การมีคนรักมันดีอย่ างที่ใครเขาว่ากันอย่ างไร บางทีก็แค่อย ากรู้ว่า การคบกันจะไปได้นานแค่ไหน บางทีก็แค่อย ากรู้ว่า ความสัมพันธ์กับคนใหม่จะดีกว่าคนเก่าแค่ไหน

มนุษย์เรายังมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นสัญชาตญาณเดิม อย่ าเพิ่งไว้ใจความรู้สึกดีให้มาก เผื่อใจไว้บ้างจะช่วยเซฟความเ จ็ บ ป ว ดไว้ได้มาก รักตัวเองให้มาก อย่ าไปคาดหวังกับใคร เพราะคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง


 
4 บางครั้งในอีกด้านของความรัก ก็เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์

“ความรักทำให้คนเราดูดีขึ้น เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น” มันจะเป็นเรื่องดีมากหากว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นเกิดขึ้นจาก inner ของตัวเราเองที่มีต่อคนอื่น ต้องการให้ตัวเองดูดี คู่ควรกับคนรักและความรักอยู่เสมอ แม้ว่าจะอยู่ห่างกันก็ยังไม่ละความสำคัญที่จะดูแลตัวเองให้ดีพร้อมตลอดเวล า

แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นไปได้ว่าการมีความรัก = โอกาสที่ดีกว่า ซึ่งเป็นไปในแง่ของผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น คบกันโดยหวังให้คนสรรเสริญ คบกันเพื่อหวังชุบตัวเองให้ดูดี

เสียใหม่ พอได้ทุกอย่ างที่ต้องการเมื่อไหร่ คนรักก็หมดผลประโยชน์ที่จะรักอีกต่อไป รักตัวเองให้มาก อย่ าไปคาดหวังกับใคร เพราะคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง

5 รักที่ยาวนานที่สุดคือ รักอย่างสม่ำเสมอ เรื่อยๆ ไปตลอดชีวิต
        
ไม่มีคำว่ารักตลอดไป ไม่มีคำว่ารักนิรันดร์ ถ้าแปลความหมาย “รักตลอดเวลา” อย่างตรงตัว นั่นก็หมายถึง สมมติว่าอยู่ด้วยกัน 24 ชม.ก็จะรักกัน 24 ชม.ชัวร์ๆ ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย
        
เพราะอย่างน้อยคนเราใน 24 ชม.นั้นก็ต้องกันพื้นที่และเวลาไว้สำหรับส่วนอื่นอ้าง มีเบื่อบ้าง ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารักอย่างรู้จักพื้นที่และเวลาของกันและกัน

รักตัวเองให้มาก อย่ าไปคาดหวังกับใคร เพราะคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง คำว่า “รักอย่ างสม่ำเสมอ” จึงมีอย่ างแน่นอน ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารักอย่ างรู้จักพื้นที่และเวล าของกันและกัน ไม่มากเกินไปจนอีกฝ่ายต้องอึด อัด ไม่น้อยเกินไปจนต้องรู้สึกขาด จนกระทั่งมันเกิดเป็นความพอดี และเมื่อความพอดีนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นที่รู้กันดีของคนสองคน นี่แหละถึงเรียกว่า “รักอย่างสม่ำเสมอ”

เขาว่ากันว่า คนที่ยังรักอยู่ ก็มีสิทธิเปลี่ยนเป้าหมายหรือไม่ก็เกิดการหลงลืมไปบ้าง ยิ่งสำหรับคำว่า “รักนิรันดร์” ยิ่งไม่มีจริง เพราะเมื่อเราไม่อยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าไปอยู่แห่งหนใดแล้ว และก็ไม่รู้ด้วยว่าชาติหน้าจะเป็นอย่างไร จะได้เกิดมาคู่กันอย่างที่นิยายหลายเรื่องเล่ามาหรือเปล่า เพราะฉะนั้น รักในปัจจุบัน…รักกันในวันนี้…รักกันในขณะที่ยังมีกัน

ขอบคุณแหล่งที่มา : chit-in