ของานได้งาน ขอเงินได้เงิน พ่อช้างเอราวัณท่านให้โช ค ขอพรเห็นผลทันตา

เอราวัณเป็นช้างที่มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนภูเขา ผิวกายเผือกผ่อง เมื่อเทียบกับภูเขาไกลาส ซึ่งเป็นภูเขาเงิน ภูเขานั้นจะมีสีหมองคล้ำลง เป็นช้างที่มี่พลังมาก เป็นเจ้าแห่งช้างทั้งหลาย ในคัมภีร์มหาภารตะกล่าวว่า “ช้างไอราวตะมีงา 4 งา มี 3 งวง รูปร่างใหญ่มหึมา และเป็นช้างเผือก”

ในวันใกล้ ห ว ย ออก จะมาขอ ห ว ย จากช้างสามเศียร กันค่อนข้างมาก รวมถึงคอ ห ว ย จากที่อื่นด้วย จนกระทั่งมีการร้องเรียนว่าทำให้รถติดในตอนกลางคืนเลยทีเดียว บางคนก็มาท่องเที่ยวเข้าชมภายในตัวช้างซึ่งทำเป็นพิพิธภัณฑ์ มีความสวยงาม และดูจะขลัง เพราะจะมีโลก และสวรรค์ นอกจากเที่ยวชมแล้วมักขจะขอ ห ว ย และซื้อล็อตเตอรี่จากแม่ค้าแถวนั้น บางคนมี๑วงได้เลขจาก ข้างสามเศียร ถูกกันบ่อย ก็มี ซึ่งเหล่าแม่ค้าย่านนั้นบอกว่ามากันเยอะก่อนวัน ห ว ย ออก บางคนมาแต่เช้าวัน ห ว ย ออกก็มี

ในภาษาสาสกฤต เรียกช้างเอราวัณว่า ไอราวาต ไอราวณ ภาษาบาลี เรียกว่า เอราวณ ส่วนในภาษาไทยเรียกว่า ไอราพต ไอราวัต ไอราวัณ และเอราวัณ ชื่อต่างๆ ทั้งหมดนี้ มีความหมายถึง น้ำ เมฆฝน รุ้ง แปลรวมว่ากลุ่มก้อนเมฆที่มีฟ้าแลบ และทำให้เกิดฝนตก โดยมีความสอดคล้องที่ว่า พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณท่องเที่ยวไปบนสวรรค์ แล้วทรงโปรยฝนให้ตกลงมายังโลก

เป็นเ รื่ อ งเล่าต่อ กันมาว่า ให้ ห ว ย แม่นมาก แต่จะแม่นยังไงในเมื่อรูปปั้นช้าง ซึ่งใหญ่โตและน่าเกรงขามมาก และที่มาของเ รื่ อ งความแม่นคือ คน ง า น ก่อสร้างที่มาทำ ง า น ตอนสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ นั้นถูก ห ว ย รางวัลที่ 1 นี่จึงเป็นที่มาของคว ามเชื่ටในห มู ่คน ง า น และเล่าขานกันเป็นวงกว้างในย่านปากน้ำ นอกจากนี้ใช้เวลาในการสร้างนานหลายปีเพราะเชื่อกันว่ามีอาถรรพ์ สร้างเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จ มีเหตุอยู่เรื่อย ทั้งคน ง า น ทั้งผู้รับเหมา ต้องเจอกับอุ บั ติ เห ตุ และเสียชีวิตหลายครั้งหลายหน

และตัวเจ้าของผู้สร้างและลูกชาย ก็เสี ย ชีວิตก่อนจะสร้างเสร็จ (เจ้าของเดียวกับเมืองโบราณ) แต่ด้วยจิตใตที่มุ่งมั่นของทีม ง า น จึงทำให้สามารถจัดทำ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ได้สำเร็จและสวยงามเป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวเพราะมีอะไรมากกว่าเ รื่ อ งขอ ห ว ย ห้ามลบหลู่ดูหมินเป็นอันข า ดเพราะมีเ รื่ อ งเล่ามากมายรวมถึงการบนขอ ห ว ย แบบแปลก เช่นเคยมีผู้หญิงมาบนเล่น คิดเล่นว่าหากถูกรางวัลที่ 1

จะยอม…กับช้าง ผลคือถูกจริง แต่ไม่แก้บนเพราะกลับและอายไม่กล้าบอกใคร สุดท้ายกลายเป้นข่าว โ ด น ข่ ม ขืนต า ย แต่นั้นก็เพียง เ รื่ อ งเล่า แต่สำหรับชาวปากน้ำสมุทรปราการและใกล้เคียง

ส่วนของไหว้นั้นก็ตามศรัทธา มีพ่อค้าแม่ค้าจัดของขายสำหรับการไหว้ไว้อยู่ แต่ภายในพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เขามีการจัดเตรียมไว้โดยรวมกับราคาค่าบัตรเข้าชม จะมีดอกไม้ธูปเทียนจัดให้ครบ และก่อนที่จะเข้าไปมด้านในแนะนำให้ไหว้ก่อนที่จะเข้าชม

บางตำนานก็ว่าพระอีศวรได้ประทานช้างเอราวัณให้เป็นช้างทรงของพระอินทร์ บ้างก็ว่าช้างเอราวัณนั้นเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระอินทร์จะเสด็จไปที่ใด เทพบุตรเอราวัณจะแปลงกายเป็นช้างเผือกสีขาว ชื่อว่า เอราวัณ และบ้างก็ว่าช้างที่มาฆมานพ ใช้ในการสร้างศาลาบนมนุษย์โลกนั้น เมื่อ ต า ย ไปได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรเอรัณและคอยเนรมิตกายเป็นช้างทรงของพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ช้างเอราวัณถือว่าเป็นเจ้าแห่งช้างทั้งปวงในสากลจักรวาล เป็นพาหนะคู่พระทัยของพระอินทร์ ด้วยเหตุนี้ช้างเอราวัณจึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของพระอินทร์ สัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของควมอุดมสมบูรณ์ และเหตุที่ทำเป็นรูปช้างสามเศียรแทน 33 เศรียรนั้น คงเป็นเพราะรูปแบบทางด้านศิลปะน่าจะมีความงดงามลงตัวมากกว่า

การเดินทาง

พิพิธภัณฑ์ ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ผ่านแยกบางพลี ก่อนถึงแยกปากน้ำ ตั้ง

อยู่บริเวณซ้ายมือ รถโดยสารประจำทาง ธรรมดา สาย 25,142,365 และรถปรับอากาศสาย 102,507,511,536

ถ้าขับรถจากกรุงเทพมาช้างเอราวัณทางถนนสุขุมวิท มีสองป้ายบอกทางที่คุณต้องสังเกต (คลิกที่รูป

เพื่อดูรูปที่ใหญ่ขึ้น) ป้ายนี้จะอยู่หลังจากที่ผ่านห้างคาร์ฟูสำโรง โดยทางเข้านั้นต้องไปทางซ้าย

ถนนกาญจนาภิเษก จากนั้นจะมีป้ายบอกทาง 3 ทางให้เลี้ยวซ้ายไปทางบางนา ถนนจะแยกเป็นสอง

ทางคือ ขึ้นทางด่วนไปบางนา-ตราด และกลับรถใต้ทางด่วนเพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์ ให้กลับรถ

ใต้ทางด่วน ทาง

เข้าพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณจะอยู่ทางซ้ายมือหลังจากกลับรถ

เรียบเรียงโดย คนบ้านนอก

อ้างอิงจากเนื้อหาใน google