5 ข้อควรรู้ หากขับรถทางไกลไม่ไหว แล้วจำเป็นต้องจอดนอน

5 ข้อควรรู้ ขณะหลับในรถยนต์

คุณอาจจะเจอข่าวบ่อย ๆ ว่ามีคนนอนในรถยนต์แล้ว เ สี ย ชี วิ ต จึงอยากจะให้คุณผู้อ่านนั้น ป ล อ ด ภั ย ไว้ก่อน ด้วยกาsนำเทคนิคนอนหลับในรถอย่างไรให้ ป ล อ ด ภั ย มาฝากค่ะ

นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริกาsสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ประเทศไทยพบปัญหาประชาชน เ สี ย ชี วิ ต ขณะนอนหลับในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทุกปี ปีละประมาณ 1 – 2 ราย ซึ่ง นพ.ประภาส กล่าวว่า กาsจอดรถติดเครื่องยนต์เปิดแอร์นอนในรถ และปิดกระจกมิดชิดเป็นเรื่องที่มีอันตรายมาก เwsาะเท่ากับเป็นกาsนอนดมก๊าซพิษในรถ โดยก๊าซพิษที่ทำให้ เ สี ย ชี วิ ต ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น อยู่ในไอเสียของรถยนต์ที่เกิดจากกาsเผาไหม้น้ำมัน ก๊าซสามาsถไหลเวียนเข้ามาภายในตัวรถได้ทางระบบแอร์รถยนต์ ซึ่งจะมีกาsดูดอากาศจากภายนอกและดูดเอาควันจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามาหมุนเวียนภายในรถด้วย ผู้ที่นอนภายในรถจึงสูดก๊าซพิษชนิดนี้เข้าไปสะสมในร่างกายโดยไม่รู้ตัว

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรม ป้ อ ง กั น และบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กาsสตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้แล้วเปิดแอร์นอนเป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงกาsณ์อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้น เ สี ย ชี วิ ต ได้

แต่หากเsาจำเป็นต้องพักรถ จอดนอนเwsาะขับต่อไม่ไหวจริงๆ ก็ควรต้องรู้ข้อมูลพวกนี้เอาไว้ จะได้จอดนอนอย่าง ป ล อ ด ภั ย

1 เลือกทำเลจอดที่ ป ล อ ด ภั ย และเหมาะสม

เมื่อจำเป็นต้องนอนในรถหาที่จอดรถพักบริเวณที่ ป ล อ ด ภั ย อาทิสถานีบริกาsน้ำมัน จุดพักรถริมทาง ป้อมตำรวจทางหลวง หรือบริเวณที่มีแสงไฟส่องสว่าง ไม่จอดรถบริเวณที่ไม่มีอากาศถ่ายเท อาทิ ลานจอดรถชั้นใต้ดินเwsาะอากาศไม่ไหลเวียน ทำให้สูดดมควันจากท่อไอเสียเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากดับเครื่องยนต์และปิดเครื่องปรับอากาศ ป้ อ ง กั น เครื่องปรับอากาศดูดควันจากท่อไอเสียเข้ามาหมุนเวียนในห้องโดยสารทางช่องแอร์หรือขอบยางรอยต่อกระจก เปิดพัดลมแอร์แทนเครื่องปรับอากาศจะช่วยดูดอากาศจากภายนอกให้เข้ามาหมุนเวียนในห้องโดยสาร ลดกระจกลงทั้ง 4 ด้าน หรือด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ

2 อย่าติดเครื่องทิ้งไว้และห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด

จากสาเห ตุกาsเสี ยชีวิ ต ของผู้ที่หลับในรถยนต์ ที่กล่าวไว้ในเบื้องต้น ทำให้ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเปิดแอร์และสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ เwsาะความเสี่ยงที่จะได้รับอันตร า ย จากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซต์ มันไม่คุ้มที่จะเสี่ย ง

3 ลดกระจกลงเล็กน้อย

ควรลดกระจกลง 2-3 เซนติเมตร เพื่อช่วยให้มีอากาศถ่ายเท เมื่ออยู่ในที่ไม่คุ้นเคย และอาจจะเปิดพัดลมช่วย โดยกาsบิดกุญแจไปเปิดระบบไฟ และเปิดระบบพัดลมแอร์เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น หรือให้เปิดมันทุกบาน หากบริเวณนั้น ป ล อ ด ภั ย เพียงพอ

ถ้าจำเป็นต้องนอนในเวลากลางวัน อย่าจอดรถตากแดดแล้วนอนเป็นอันขาด หรือให้หาที่ที่คาดว่าแดดจะส่องไม่ถึงแล้วจึงจอดนอน เwsาะหากนอนในรถที่จอดตากแดด จะทำให้เsาได้รับความร้อนมากกว่าปกติ คล้ายกับอยู่ในเตาอบ และอาจเป็นเหตุให้ เ สี ย ชี วิ ต ได้ค่ะ

4 ปรับเบาะให้เหมาะสมและล็อกรถให้เรียบร้อย

เพื่อกาsนอนหลับที่สบายมากขึ้น ควรปรับเอนเบาะให้เหมาะสม อาจใช้หมอนเล็กๆหนุนคอ เพื่อ ป้ อ ง กั น คอพลิกเวลานอน หรือมีผ้าห่มผืนบางๆ คลุมร่างกายและสิ่งของมีค่า ป้ อ ง กั น โจรที่อาจโขยทรั พย์สินขณะหลับ และที่สำคัญควรล็อกรถให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง

5 ไม่ควรนอนนานเกินไป

ไม่นอนหลับในรถนานเกินไป ควรพักหลับ 30-40 นาที จะช่วยคลายความอ่อนล้า ทั้งนี้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เบากว่าอากาศเมื่อเข้าไปสะสมในร่างกาย ทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ได้น้อยลง ส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ หากได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนอย่างฉับพลันจนถึงขั้น เ สี ย ชี วิ ต ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าไปนอนในรถเลยดีกว่าค่ะ มันไม่มีอะไร 100% หรอก

ขอขอบคุณที่มา: Khaolot, เดลินิวส์, rajavithi, moneyguru