อะโวคาโด้ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ สำหรับใครที่อยากจะปลูกไว้ทานเองในบ้านก็ทำได้เหมือนกันนะ เพียงคุณมีพื้นที่สวนขนาดย่อมๆ เสียหน่อย เพราะ ค ว า ม สู ง ของต้นอะโวคาโดจะมีขนาดประมาณต้นมะม่วง
ถ้าปลูกในพื้นที่น้อยไป อาจจะแออัดไปซักหน่อย ถ้ า ห า ก ต้นพันธุ์เล็กก็ปลูกระยะ 6 เมตร/ต้น ถ้าพันธุ์ใหญ่ก็ 8 เมตร/ต้น เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องดูแลเอาใจอะไร ย า ก มากมายเลย
3 วิธีการปลูกอะโวคาโด
1 นำเมล็ดลงดิน
ขุดหลุมพรวนดิน ใส่ขุย ม ะ พ ร้ า ว ลงไป จากนั้นกดเมล็ดอะโวคาโดลงให้จมดินเพียงครึ่ง ไม่ต้องกลบดินตาม ปล่อยให้เมล็ดเปลือยไว้แบบนั้น แล้วรดน้ำให้ชุ่มเช้า – เย็น ทุกวัน
2 วิธีเพาะรากในน้ำ
ให้ใช้ไม้จิ้ ม ฟั นเ สี ย บรอบ เ ม ล็ ด เลย แล้วก็เอาไปวางแช่น้ำบนปากแก้ว หรือปากขวดก็ได้ โดยให้เมล็ดแช่อยู่ในน้ำสูงประมาณ 1 นิ้ว รอจนกว่ารากจะงอกค่อยเอาไปปลูก
3 เพาะเมล็ด
ห่อด้วย ก ร ะ ด า ษ ชำระ (ควรเลือกกระดาษชำระที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน หากมีสารเพิ่มกลิ่นหอม หรือ สารเพิ่มความขาว จะทำให้เมล็ดเน่า) วิธีห่อคือ ใช้กระดาษชำระมาห่อ เ ม ล็ ด เพียงครึ่งลูกแล้วจุ่มน้ำจนชุ่ม ป ล่ อ ย ให้งอก ในกรณีนี้การเพาะเมล็ดลงดินอาจจะดีกว่าการแช่เมล็ดในน้ำก่อน
วิธีการดูแลก็ง่ายแสนง่าย
– การเตรียมดิน ให้เตรียมดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวหรือ กาบมะพร้าวสับ เพื่อที่ดินจะระบายน้ำได้ดี เ มื่ อ ย้าย ต้นกล้าลงดิน พึงระวังน้ำท่วมราก
– อะโวคาโดชอบแดดจัด แต่ไม่ ช อ บ ร้ อ น อบอ้าว ควรตั้งไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หรือ ปลูกลงดินที่แสงแดดไม่จัดมาก หรือ ติดสแลน (ตาข่ายกรองแสง) หรือ อาจจะปลูกแซมกับ พื ช ยื น ต้นชนิดอื่นให้ช่วยพรางแดดก็ได้เช่นกัน
– ในระยะที่ปลูกอะโวคาโดใหม่ๆ ควรให้น้ำแก่ต้นอะโวคาโดเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตและมีรากแผ่กระจายโดยควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ดินชุ่มแต่อย่าให้น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าต้นตายได้
– เ มื่ อ ต้ น อ่ อ น ในกระถางสูงได้ 6 -7 นิ้วให้ตัดยอดออก เพื่อเร่งการแตกยอดใหม่ และเมื่อสูงได้ 12 นิ้ว ให้เด็ด ย อ ด อ่ อ น ออก เพื่อให้แตกยอดใหม่เพิ่มเรื่อยๆ จะให้พุ่มทรงสวย
– ต้นอะโวคาโดที่ปลูกใหม่จนถึงระยะก่อนออกดอกและติดผลจะตัดแต่งกิ่งเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องตัดแต่งกิ่งเลย ยกเว้นตัดแต่งกิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงลักษณะพุ่มต้น
– เมื่อต้นสูง 1 เมตรใส่ปุ๋ยบ้าง 1 – 2 เดือน/ครั้ง ค อ ย ห มั่ น ระวังกำจัดวัชพืชรอบๆ โคนต้นจะมา แ ย่ ง อ า ห า ร ต้นจะไม่โต เพียง 3 ปี ก็สามารถให้ผลเก็บกินได้แล้วค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา mthai.com
เรียบเรียงโดย คนบ้านนอก