มัลเบอร์รี่ หรือ หม่อน ผลไม้หนึ่งในตระกูลเบอร์รี่ ปลูกง่าย แปรรูปเป็นผลิตภัณ์เพื่อสุขภาพสร้างมูลค่าได้หลากหลาย สามารถปลูกได้กับทุกสภาพพื้นที่ มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกัน หากปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน แดดจัด ผลจะดก โตเร็ว
มีข้อเสียคือ ผลจะนิ่ม ถ้าปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นผลหม่อนจะออกไม่ดกมาก ข้อดีคือ ผลจะมีความหวาน กรอบ หากจะปลูกเชิงการค้าแนะให้เลือกพื้นที่ที่มีสภาพภูมิอากาศเย็นและมีแดดส่องถึง
ขั้นตอนการปลูกมีดังนี้
– คัดเลือกต้นหม่อนที่จะปลูก ไม่ว่าจะเป็นหม่อนสายพันธ์ กำแพงแสน84, บุรีรัมย์60 และ เชียใหม่60 ตามแต่จะสามารถหาซื้อได้ในแต่ละพื้นที่
– ระยะปลูก ควรปลูกเป็นแถว ขนาด 4 x 4 เมตร เพราะรัศมีทรงพุ่มแต่ละต้นประมาณ 2 เมตร
– เตรียมหลุมปลูก โดยขุดหลุมลึก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 8-10 กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปูนขาว (ปูนโดโลไมท์) ประมาณ 1 กิโลกรัม/หลุม และปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วกลบหลุมด้วยหน้าดินให้พูนเล็กน้อย
– ขุดดินบนหลุมที่เตรียมไว้ให้ลึกพอประมาณ แล้วนำต้นหม่อนที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการปลูกหม่อน เมื่อต้นหม่อนมีอายุครบ 2 ปี ก็จะเริ่มให้ผล ซึ่งระหว่างนั้นเราควรที่จะบำรุงรักษาด้วยการใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยสูตรอย่างสม่ำเสมอ ถ้าต้นมัลเบอร์รีมีความสมบูรณ์จะให้ผลผลิต ประมาณ 15 – 35 กิโลกรัม/ต้น/ปี เลยทีเดียว
การเก็บผลมัลเบอรี่
พอต้นหม่อนติดผลเป็นมัลเบอรี่แล้วก็ให้ดูระยะผลที่สุกห่าม มีสีแดงสัก 50 % ม่วง 50 % หรือจะรอเก็บผลสุกเลยก็ได้ โดยผลสุกนั้นจะเป็นสีม่วงดำ จะเก็บช่วงไหนก็แล้วแต่ชอบเลย สุกน้อยรสเปรี้ยวก็เยอะหน่อย สุกมากความหวานก็จะมากตามชอบแบบไหนเก็บแบบนั้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมัลเบอร์รี่
มัลเบอรีจัดเป็นผลไม้ต้านโรค มีประโยชน์ในเรื่องป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิต ปรับลดคอเรสเตอรอล ป้องกันมะเร็ง แก้อาการเส้นเลือดโป่งพอง บำรุงสายตา และป้องกันการเกิดต้อกระจก เป็นผลไม้ที่ป้องกันสารพัดโรค ปลูกง่าย และออกลูกง่าย มีที่ดินเพียงเล็กน้อยปลูกมัลเบอรีเพียงต้นเดียวก็สามารถทำให้ออกลูกดกเก็บกินได้ตลอดทั้งปี
เรียบเรียงโดย คนบ้านนอก