การปลูกตะไคร้เพื่อตัดใบจำหน่ายก็
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ที่สามารถปลูกได้ง่ายดูแลง่ายและกลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างกว้างขวางเพราะสามารถนำมาทำอาหารได้ซึ่งด้วยเหตุนี้นี่เอง
ทำให้มีชาวเกษตรกรคนหนึ่งนั่นก็คือ คุณกฤษณา ช่างยา อดีตบรรณารักษ์ ได้มีการหันหลังให้กับงานประจำในรั้วมหาวิทยาลัย จากนั้uก็ก้าวสู่ความเป็นอาชีพเกษตร
และมีการเปลี่ยนพื้นที่ดินที่นาจำนวนกว่า 30 ไร่ มา ป ลู ก ตะไคร้ 3 สายพันธุ์ โดยมีการขายทั้งหัวสดและหัวตากแห้งบอกเลยว่ายอดขายในแต่ละเดือน นั้นนับแสนบาทต่อเดือuเลยก็ว่าได้
นางกฤษณา ช่างยา นั้นเป็นเจ้าของของสวน บ้านตะไคร้มหาสารคาม ที่จังหวัดมหาสารคามโดยก่อนหน้านั้นเคยทำอาชีพบรรณารักษ์ที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีการควบคู่กับการปลูกดอกดาวเรืองตัดดอกขายส่งตลาดไท
แต่ต่อมาก็ได้มองเห็นตลาดการ ซื้ อ ข า ย ของตะไคร้และเห็นว่ามีโอกาสที่จะทำรายได้ให้กับครอบครัวจึงได้เข้าไปปรึกษากับครอบครัวและมีการทดลองปลูกตะไคร้ด้วยตัวเอง
โดยมีการแบ่งพื้นที่นาเดิมมาขุดร่องทำแปลงปลูกไม่นาน…ยอดสั่งซื้อตะไคร้นั้นก็มีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำสวนตะไคร้กันอย่างเต็มตัวและมีการลงทุน ป รั บ พื้นที่นาจำนวน 30 ไร่มาปลูกตะไคร้
3 สายพันธุ์นั่นก็คือ ตะไคร้แดง ตะไคร้ขาว เ ก ษ ต ร และตะไคร้หยวกโดยลูกค้าส่วนใหญ่น่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเช่น โรงงานทำพริกแกง โรงงานผลิตผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
โดยตะไคร้ถือเป็นพืชผักสวนครัวที่สามารถดูแลได้ไม่ยุ่งยากสามารถปลูกในดินได้แทบทุกสภาพดินแต่ทางที่ดีควรจะเป็นดินร่วนปนทรายจะดีที่สุดเพราะจะแตกรากและก็ได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับการปลูกตะไคร้ของที่นี่
จะเริ่มจากการ ไถตีแปลง / พรวนดิน / เตรียมต้นพันธุ์ที่ตัดใบออก ให้เหลือต้นยาว ประมาณสัก 30-40 ซม. และนำมาไว้ในที่ร่ม
จากนั้นก็รดน้ำเช้าเย็นประมาณ 3-5 วัน เพื่อให้รากงอกโดย รากที่แก่เต็มที่จะมีสีเหลืองเข้มและสามารถ นำไปปลุกในแปลง โดยการเว้uระระแต่ละกอกว้างคูณยาว 1 เมตรคูณ 1 เมตร
ถ้าเป็นตะไคร้ตัดใบ จะลดระยะความกว้างของ ร่ อ ง และต้นลงมาเหลือ 50-70 เซน ส่วนการวางต้นพัuธุ์ ให้วางเอียง45องศา ไปด้านใดด้านหนึ่งแล้วกลบดิน ในระยะ 2 สัปดาห์แรก จะต้องให้น้ำสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น
จนตะใคร้แตกใบจากนั้นเหลือให้น้ำวันละครัง ส่วนการให้น้ำจะใช้สายน้ำหยด หรือระบบสปริงเกอร์ก็ได้ ตามที่ผู้ปลูกถนัดหรือตามพื้นที่ของเจ้าของสวน
ซึ่งตะไคร้ถือเป็นพืช ที่มี ศั ต รู พื ช ค่อนข้างๆน้อยดูแลได้ง่ายและสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 6 เดือu และเมื่อตัดแล้ว 3 เดือนก็สามารถตัดใบได้อย่างต่อเนื่อง
โดยตะไคร้สดนั้นสามารถ ข า ย ได้กิโลกรัมละ 7 – 20 บาท และยิ่งถ้าหากเป็นหน้าแล้งตะไคร่ก็จะมีราคาสูงมากยิ่งขึ้นขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท ส่ ว น ตะไคร้ตากแห้งนั้นจะขายในกิโลกรัมละ 14 – 20 บาท โดยยอดขายในแต่ละเดือนด้วย
การตัดหัวสดก็จะมีลูกค้าจากโรงงาuมารับซื้อสัปดาห์ประมาณ 50 ตัน และจะมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมารับซื้อตะไคร้ตากแห้งอีกเดือนละ 100 กิโลกรัม ทำให้มี ย อ ด ขายไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท เลยทีเดียว
และนอกจากนี้ในส่วนของใบตะไคร้ที่ใครหลายๆคนมองข้ามกันนั้นก็สามารถนำมาสร้างรายได้ได้ด้วยเช่นกัน
โดยล่าสุดได้มีเพจของสวนตะไคร้คุณหญิงโคราชมีการ เ ผ ย แ พ ร่ ออกมาโดยมีการโพสต์ข้อความไว้ที่ว่า ท่านใดสนใจต้นตะไคร้ตัดใบอถ้าตะไคร้อายุเกิน 4 เดือนตัดต้นตะไคร้แบบผ้าประมาณคืบจากดินใบใหม่ก็จะออกและสามารถตัดใบขายได้อีกประมาณ 20 ถึง 25
วันข้างหน้าหาก ท่ า น ใดสนใจร่วมทีมงานจะมีการรับซื้อ ต ล อ ด ปีโดยสามารถติดต่อได้ที่ 099-5057183 (หญิง) / 081-8796788 (บอย)
นอกจากนี้ก็ยังมีการเผยแพร่เกี่ยวกับการปลูกตะไคร้เพื่อให้ได้ใบขายสำหรับที่ผู้สนใจซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1. พันธ์ตะไคร้ที่ใช้ปลูก พันธุ์หยวก พันธุ์เกษตร พันธุ์กาบแดง ย ก เ ว้ น ตะไคร้หอม
2. การ ป ลู ก ในพื้นที่ 1 ไร
2.1 ใช้กล้าพันธุ์ 400 กก. ราคา 6,000 บาท
2.2 ระยะการ ป ลู ก 25x25x60 ชม.
3. ผลผลิตต่อไร่
3.1 เริ่มเก็บเกี่ยวครั้งแรกที่อายุ 90 วัน หลังจากนั้น เ ก็ บ เกี่ยวทุกๆ 20- 25 วัน เป็นเวลาประมาณ 2 ปี
3.2 ใบสดประมาณ 1,000-1,500 กก.
3.3 ใบ แ ห้ ง ประมาณ 300-400 กก. ( ใบสด 4 กก.ไดใบแห้ง 1 กก.)
4. ราคารับซื้อ ณ.ส ว น คุณหญิง
4.1 ใบสด 2.5 บาท/กก.
4.2 ใบแห้ง 10-15 บาท/กก. ขึ้น อ ยู่ กับคุณภาwสินค้า
4.3 ประกันราคารับซื้อขั้นต่ำ 10 บาท/กก.
5. เพื่อ ค ว า ม มั่ น ใ จ ของผู้สนใจทุกท่าน เรายินดีทำบันทึกข้อตกลงในชื้อ-ขาย #รวมกันซื้อ รวมการขาย รวมกันกระทำการอย่างใด อ ย่ า ง หนึ่งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 09 9505 7183 หญิง / 081879 6788 บอย
แหล่งที่มา : hunsa.siamtodaynews.com